วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550

เรื่องของกวี

คิดถึงกวีหนุ่ม
กวีสาวยังกลุ้มไม่หาย
‘...ไม่รู้จะเป็นหรือจะตาย
จะดีร้ายอย่างไร....’ ก้อคิดถึง
“ เศร้าเหลือแล้วรึ กวีหนุ่ม ? ”
กวีสาวส่ง SMS สุ่มถามไป
กวีหนุ่มถามกลับ “ กวีสาวอยู่ไหน ”
กวีสาวตอบ “ อยู่ที่ใจดวงเดิม ” โมบายโฟน
“ บ้ามากเกินไป หรือปล่าวกวีหนุ่ม ? ”
กวีสาวตอกเสริม
กวีหนุ่มยิ้มอ้อนหยอกเอิน
สองกวีเพลิดเพลินถ้อยคำ พบหน้าและฟันเหล็ก
กวีสาวนั่งยิ้มกับภาพถ่ายและถ้อยคำกวีหนุ่ม
ยิ้มแก้มบุ๋มแล้วทำหน้างอนง้ำ
“ นี่ ! นี่ ! ทำหน้าขรึมๆ บึ้งๆ อยู่ดั๊ย ! ..
ใครล่ะ ! เที่ยวทำตัวให้เหินห่าง ฮื้ย ..” กลับมา/-ระหว่างคํ่าคืน
‘ ป่านนี้คงจะหลับแล้วซิน๊ะ กวีหนุ่ม...’
กวีสาวนอนคลุมโปงฝันเขินๆ
‘ พรุ่งนี้ก่อนเถอะน๊ะ...’
กวีสาวฝัน (กวีหนุ่มคงฝันมากกว่า ?) บนที่นอนปิคนิค


กวีสาวเกวลี อาโนเน่ะ
*
*
กวีหนุ่มหนึ่งนั้น- นั่งเหงา นอนหงอย ใจเฉา
กลืนกิน เป็นอยู่ลำบาก
พรํ่าเพ้อ รายมายเรื่องมาก ตายอดตายอยาก
ผอืดผอม อกตรมทนฝืน
ร่ายน้ำคำกลืนกล้ำคำขื่น ทุกคํ่าวันคืน
หน้าไม่ชื่น ตาไม่บาน
เป็นอยู่อย่างนี้ มานาน จะบ้ามิปาน
จะตายหรือไม่ตายดี
ยิ่งโศกซึม ยิ่งมากมี กาละบีบคั้นทุกที
ทุกข์ ทุกข์ เศร้า เศร้า- เปลี่ยวดาย
โอ้ ! กวีหนุ่มเป็นไปได้ บ้า บ้าจนเป็นไข้
ไม่รู้จักจับจ่ายใจ ,-
‘ กวีสาว น้องสาวสวยใส กวีสาวไปไหน
ทำไมไม่มาดูใจบ้าง ?
ช่วยหน่อยเถอะ ! กวีหนุ่มอ้างว้าง อดสูเรือนร้าง
ค้างแรมนานเนากาลฝน
และหลายหนาวเคลื่อนปะปน กวีหนุ่มอับจน
ทนนอนเดี่ยวหลายคืนแล้ว
กวีสาวจ๋า (เสียงเจื้อยแจ้ว) กวีหนุ่มแห้วแห้ว
คอยแล้ว คอยเล่า คอยอีก ...’
กวีหนุ่มหงอย กระปรอยกระปริก กวีสาวกระเซ้ากระซิก
กวีหนุ่มมีกะจิตกะใจฝันต่อ....


กวีหนุ่มไกวัลย์ เล่ะเท่ะ




ธาร อภิญญา

ไม่มีความคิดเห็น:

กถาเพื่อนคำ

ต้อนรับสู่ถ้อยคำเขียนข้าว
หมายเหตุแห่งเรื่องราว ณ ยุคสมัย
บานแผนกแยกรับ สดับนัย
ด้วยหทัยกล่าวธรรม สมันตา


Copyright©2007 kurukarn.blogspot.com
by editorship@hotmail.com
Powered By Blogger