วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550

บันทึกกถา ๒

บันทึกกถา : บดเอื้องจินตนาการฝันระหว่างคืนวันแห่งชีวิตในคำถ้อยต่อเนื่องของใจ
ธาร อภิญญา

๑.

ค่ำคืนดึกหนักแล้วของวัสสากาล
กำลังแห่งลมและฝนสะพัดหนักและเบา
พลิ้วยอดใบไผ่ข้างหน้าต่างระบัดเสียงตามลมน่าฟังยิ่งนัก
เย็นกระสายฝนริ้วผ่านหน้าต่างเข้ามาให้ชื่นฉ่ำในสมปฤดี

กาละที่แผ่วผ่านแต่ละช่วงตอน
นับเนื่องไปกับลมหายใจเข้า ออก สั้น ยาว
และอิริยาบถกับการกระทำที่ไม่แปลกแยก
แต่มีความเป็นที่แปลกต่างในบางครั้งคราว

ภายในห้องที่มีหน้าต่างเปิดอยู่บานเดียว
ตัวหนังสือบนนากระดาษวางซ้อนทับกันอยู่รายรอบขอบห้อง
แลดูเหมือนมันจะเป็นชิ้นส่วนของชีวิตที่มีราคาค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ทั้งเล่มใหญ่ น้อย ปกอ่อน แข็ง
มีคุณภาพที่แตกต่างของความเชื่อและคุณค่าที่กำหนด

ฉันอยู่กับมันตลอดการเดินทางของลมหายใจ
จึงเห็นมันเป็นเหมือนกับต้นไม้ทั้งป่าที่ถูกตัดมาสุมไว้ในพื้นที่อันจำกัด
ถึงแม้ฉันจะไม่พอใจกับการทำลายต้นธาตุที่งอกงาม
แต่ฉันก็มีความจำเป็นที่ต้องรับช่วงต่อจากการทำลายสิ่งหนึ่ง
เพื่อสร้างอีกสิ่งหนึ่งขึ้นใหม่ซึ่งมีความแตกต่างและการใช้สอยประโยชน์ใหม่
และฉันคิดว่า มวลธาตุที่มีคงไม่สูญไปจากโลก

ฉันพยายามสร้างสิ่งที่มีผู้ก่อสร้างไว้แล้วด้วยเม็ดเหงื่อของอเนกชน
ที่หลั่งไหลให้ด้วยสายธารแห่งศรัทธาที่มีต่อท่านผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ฉันคิดถึงพ่อผู้ให้ธาตุและเกื้อกูลการเรียนรู้

ฉันปรารถนาสร้างมวลแมกไม้ไว้ใกล้ๆ ลมหายใจ
เพื่อเป็นเพื่อนชีวิต ร่วมทุกข์ สุข
และเพื่อรำลึกถึงสังขารที่แตกดับไปของพ่อ

วันและคืนแห่งพระจันทร์ขึ้นแรมในแต่ละห้วงฤดู
ฉันอ่านหนังสืออย่างเพ้อฝันและเพื่อสลายทุกข์
กถาของปราชญ์ปุถุชน และปราชญ์วิญญูชน
เป็นข้าวเมล็ดงามอุดมคุณค่า
ฉันเลือกเสพอย่างต้องการเพื่อการภาวนาแห่งตัวตน

ฉันเก็บเกี่ยวข้าวเหล่านั้นมาไว้ในยุ้งฉางของฉันเสมอ
แล้วซ้อมมาแบ่งปันแก่เพื่อนชีวิตใกล้ชิดด้วยสุขที่เบิกบาน

..............

ไม่มีความคิดเห็น:

กถาเพื่อนคำ

ต้อนรับสู่ถ้อยคำเขียนข้าว
หมายเหตุแห่งเรื่องราว ณ ยุคสมัย
บานแผนกแยกรับ สดับนัย
ด้วยหทัยกล่าวธรรม สมันตา


Copyright©2007 kurukarn.blogspot.com
by editorship@hotmail.com
Powered By Blogger