วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550

บันทึกกถา ๑

จากสมุดบันทึก
ฉบับ “บันทึกกถา : อาลยะวิญญาณ และ..ความต่อเนื่อง ไหลเนื่องของใจ”
ธาร อภิญญา

๑๓ กรกฎา. ๒๕๓๘

บนทางผ่าน,-หลายฤดูน้ำท่วม
พราก-พบไปหลายสภาวธรรม
ข้าพเจ้าคิด คิด คิด
และคิดอีกหลายครั้ง- นับไม่ถูกถึงจำนวนครั้ง !
ข้าพเจ้าฝัน ฝัน ฝัน
และฝันในหลายสิ่งอย่าง- นับไม่ถ้วน !

นามและวัตถุธรรมซึ่งเป็นบทแทรกแห่งชีวิต
เติบกล้าและแผ่วโหย ขึ้น-ลง เกิด-ดับ
เป็นอยู่เช่นนั้นเอง !

ชีวา คือการเป็นอยู่ ใช่แล้ว ! การเป็นอยู่นั้น
คือบทศึกษาที่ข้าพเจ้าชื่นชอบ ...
สรรพสิ่งอันเกิดมี ดำรงอยู่ และแปรเปลี่ยน-
ด้วยกฎเกณฑ์ธรรมชาติ
ข้าพเจ้ารักและฝันกับมัน
ได้ทุกโมงยามของลมหายใจ
วิญญาณธาตุและสัญญากำหนดได้
พร้อมเสวยเข้าไปได้ทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้น
....
ข้าพเจ้าเห็นว่า อะไรเป็นอะไร ! ?
ทั้งที่จิตใจของข้าพเจ้า พร่ามัวและเครือคลุม !

ข้าพเจ้าพยายามระลึกรู้ กำหนดรู้ และหมายรู้
เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้รักและฝัน หวังกับสรรพสิ่ง-
เหล่านั้นต่อไป,

ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณธรรมธาตุทั้งปวง
ที่ให้การก่อเกิด ให้ความรู้สึกที่ดีด้วยอาทรกรุณา

ข้าพเจ้าขอบคุณ
-------

(คำกั้นระหว่างวัน)

สัจจะที่แท้ คือความจริงที่มีความบริสุทธิ์ ถึงที่สุด
ความที่ปราศจากความนึกคิดต่างๆ อย่างเด็ดขาด
เรียกว่า ปรีชาของการมีจิตปรกติ
ทุกการเป็นอยู่ ไม่ว่าอิริยาบถใด
จงทำตนให้เป็นผู้มีจิตปรกติ ปราศจากการยึดถือทุกอย่าง

ทำจิตให้ปรกติถึงที่สุด
จิตเหมือนดวงอาทิตย์ ในข้อที่มันอยู่ในความว่าง
ตลอดนิรันดร ส่องแสงได้โดยธรรมชาติของมันเอง
.....
“จงทำจิตให้เป็นจิตชนิดที่ไม่อิงอาศัยอยู่บนอะไรเลย”
ธรรมภาษิตที่สำคัญที่สุด จาก วัชรปรัชญาปารมิตตาสูตร.
.....
ลูกศรถูกยิ่งออกจากคัน ด้วยแรงยิงเพียงครั้งเดียวก็ตกลงดิน
การสร้างชีวิตมีความหวังให้ได้โดยมิอาจเต็ม
.....



*******************

ไม่มีความคิดเห็น:

กถาเพื่อนคำ

ต้อนรับสู่ถ้อยคำเขียนข้าว
หมายเหตุแห่งเรื่องราว ณ ยุคสมัย
บานแผนกแยกรับ สดับนัย
ด้วยหทัยกล่าวธรรม สมันตา


Copyright©2007 kurukarn.blogspot.com
by editorship@hotmail.com
Powered By Blogger