วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ทางชีวิต

กฎของการกระทำกรรมดีชั่ว
ย่อมพันพัวตัวตนคนชายหญิง
เป็นเหตุผลเที่ยงแท้แน่นอนจริง
ที่เป็นสิ่งประสพอยู่ทุกผู้คน

จะมืดหรือสว่างทางชีวิต
เหมือนลิขิตขีดเส้นเป็นเหตุผล
ผลักดันให้แปรเปลี่ยนหมุนเวียนวน
ซึ่งผจญทุกเวลาไม่ว่าใคร

ประกอบกรรมทำดีย่อมมีสุข
ปลดเปลื้องทุกข์วิบัติบัดไถม
จะสดชื่นรื่นเริงบันเทิงใจ
เหล่าเวรภัยนานาไม่ราวี

ชนชายหญิงพากันสรรเสริญ
ได้เจริญเกียรติงามตามวิถี
ด้วยเมตตารักใคร่ผูกไมตรี
ต่างยินดีคบค้าสมาคม

ถ้าแม้นทำชั่วตัวมัวหมอง
ตนนั้นต้องตกอับทุกข์ทับถม
ทางชีวิตมืดมนจนต้องขม
เศร้าระบมเข็ญใจไม่เว้นวัน

อีกปวงชนทั่วไปไม่เกรงขาม
บ้างประณามหยามเหยียดคิดเดียดฉันท์
กล่าวติฉินนินทาสารพัน
ทุกสิ่งอันมีแต่ชั่วเกลือกกลั้วกัน

ซ้ำเผชิญทุกข์ภัยไม่ละลด
ใจสลดอดสูอยู่ไม่หาย
ผิดแนวทางจึงตกขมเพราะงมงาย
ด้วยเหตุร้ายรุมรึงคอยดึงพา

อันกรรมดีกรรมชั่วที่ตัวสร้าง
ล้วนเป็นทางนำสุขทุกข์มาหา
ใครทำดีได้ดีมีราคา
เกิดคุณค่ามากมายหลายประการ

ใครทำชั่วได้ชั่วมัวแต่เศร้า
จะร้อนเร่าเรื่องร้ายหลายสถาน
จึงควรที่ท่านหญิงชายได้วิจารณ์
เลิกเป็นพาลเสียทีจะดีงาม ฯะ๙




อ. คุรุการเกษตร

๒๕ กรกฎ. ๐๖ / ๑๐.๑๕ น.
บ้านปากคลอง พัทลุง


* ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ “ไทยทักษิณ” ปี ๒๕๐๖

ไม่มีความคิดเห็น:

กถาเพื่อนคำ

ต้อนรับสู่ถ้อยคำเขียนข้าว
หมายเหตุแห่งเรื่องราว ณ ยุคสมัย
บานแผนกแยกรับ สดับนัย
ด้วยหทัยกล่าวธรรม สมันตา


Copyright©2007 kurukarn.blogspot.com
by editorship@hotmail.com
Powered By Blogger