วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550

บันทึกกถา ๔

บันทึกกถา : บดเอื้องจินตนาการฝันระหว่างคืนวันแห่งชีวิตในคำถ้อยต่อเนื่องของใจ

๓.

เดือนแห่งฝน, เป็นช่วงเดือนแห่งปีที่ข้าพเจ้าชอบ
แต่คะเนหมายไม่ได้ว่าจะมากหรือน้อยกว่ากันกับเดือนหนาว
และวันคืนในเดือนแดดร้อน
ชื่นชอบ, แต่สำหรับในระหว่างไตรมาส นั่นคือ เดือนแปด เก้า สิบ
กับอีกหนึ่งเดือนต่อมา- เดือนสิบเอ็ด
เป็นฤดูกาลแห่งการอยู่เรือน อยู่นา
เป็นฤดูกาลสำหรับการเริ่มต้นเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ที่งดงาม ต้นใหม่
ทั้งเป็นช่วงการเฝ้าระวังดูแลรักษา เพื่อโภชน์ผล
ข้าพเจ้าแลเห็นสิ่งที่เป็นอยู่เช่นนี้-
กฎและเกณฑ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้น เป็นอยู่
มนุษย์ได้ทำความรู้จักด้วยการเรียนรู้

ดูเป็นสิ่งน่าประหลาดใจที่มนุษย์มีวิทัศน์ต่อธรรมชาติ
ได้อย่างงดงามเช่นนี้, ข้าพเจ้าคิด
แต่มันไม่เห็นน่าจะประหลาดใจอะไรเลย
ก็เมื่อมนุษย์เกิดขึ้นและเป็นอยู่ในโลกนี้มานานแล้ว

ปฏิการระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติต่อเนื่องกันอยู่แล้ว
และโดยสำคัญมนุษย์ก็เป็นธรรมชาติหนึ่งนั้นด้วย

ข้าพเจ้าเฝ้านั่งดูสายฝนที่ร่วงลงมาด้วยใจเป็นหนึ่งเดียว

กลางวัน เห็นสายฝนเป็นเส้นสายที่อ่อนงามพริ้วโยน
กลางคืน ในทุ่งกว้าง ข้าพเจ้าไม่เห็นสายฝนเลย
แต่รู้ว่าน้ำที่เจิ่งนั้นร่วงมาจากฟ้า
ยามสายอีกวันที่ตื่นขึ้นมา ข้าพเจ้าเห็นน้ำในทุ่ง
ต้นไม้มีใบเขียวสดแปลกงามขึ้นกว่าเดิม
ข้าพเจ้าเปลือยดวงใจให้กระโดดลงไปสัมผัสพื้นดินชุ่มน้ำฝน
ได้เป็นพักๆ จนทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกรักสรรพสิ่งขึ้นมาอย่างจับใจ
จนอยากหยั่งรากให้ชอนไชลึกลงไปให้ถึงตาน้ำข้างใต้
แต่ข้าพเจ้าก็ต้องรอคอยวันเวลาเพื่อให้รากแก้วเติบแกร่ง
และให้รากฝอยแตกงามมากกว่าที่เป็นอยู่

.. และข้าพเจ้าก็ไม่อาจบอกกล่าวอะไรแก่ผู้อยู่ร่วมโลกเดียวกันได้
ถึงสิ่งที่ข้าพเจ้ารู้เห็น เป็น มีอยู่
ข้าพเจ้าควรให้ผู้อยู่ร่วมโลกเดียวกันได้รู้เห็น
ด้วยตัวตน ดวงตาและดวงใจของพวกเขาเองดีกว่า
ข้าพเจ้าคิดเห็นว่า ควรจะให้เป็นเช่นนั้น





ธารน้ำฝัน
..........................

ไม่มีความคิดเห็น:

กถาเพื่อนคำ

ต้อนรับสู่ถ้อยคำเขียนข้าว
หมายเหตุแห่งเรื่องราว ณ ยุคสมัย
บานแผนกแยกรับ สดับนัย
ด้วยหทัยกล่าวธรรม สมันตา


Copyright©2007 kurukarn.blogspot.com
by editorship@hotmail.com
Powered By Blogger